ส่องพฤติกรรมเจ้าเหมียวที่ทาสแมวมือใหม่ต้องรู้

ใครเป็นทาสแมวน่าจะทราบดีว่าบรรดาเจ้าเหมียวช่างน่ารักน่าชังมากเพียงใด โดยเฉพาะเมื่อยามออดอ้อนขอความรักหรือเรียกร้องความสนใจ จนทำให้ปัจจุบันมีทาสแมวจำนวนมากที่หลงใหลในความน่ารักของเจ้าเหมียวไม่แพ้สุนัขหรือสัตว์พันธุ์อื่น ๆ แต่สำหรับทาสแมวมือใหม่ที่เห็นพฤติกรรมแปลก ๆ จากเจ้าเหมียว แน่นอนว่าอดข้องใจไม่ได้ เพราะฉะนั้นลองมาดูกันว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้างที่ทาสแมวมือใหม่ต้องรู้จะได้รับมือกับเจ้าสี่ขาได้อย่างถูกต้อง

1. สบตาทาส นานเป็นพิเศษ

การที่น้องแมวสบตาเราคงไม่ใช่เรื่องแปลกสักเท่าไหร่ แต่บางครั้งน้องแมวกลับสบตาเรานานเป็นพิเศษ การจ้องตาของแมวนั้นหากไม่มีท่าทางหวาดกลัว แสดงให้เห็นว่าน้องแมวรู้สึกไว้ใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้ หากแมวกระพริบตาช้า ๆ ระหว่างสบตาด้วย นั่นทำให้เดาได้เลยว่าแมวรู้สึกสบายใจกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบรวมถึงเจ้าของ แต่ถึงอย่างนั้นหากแมวสบตาเรา เราควรกระพริบตาให้ และไม่ควรจ้องกลับนาน ๆ เพราะอาจทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ 

2. หางม้วนชี้ขึ้นด้านบน

นอกจากการสบตาแมวแล้ว ทาสแมวอย่าลืมสังเกตหางแมวได้ด้วย เพราะหางแมวสามารถสื่อสารความรู้สึกของเจ้าเหมียวได้ เช่น หากพบว่าหางม้วนชี้ขึ้นด้านบน ท่าทางดูผ่อนคลาย แสดงให้เห็นว่าเจ้าเหมียวรู้สึกสบายใจ ไม่หวาดระแวงกับสิ่งแวดล้อม หากพบว่าหางกระตุกเป็นระยะนั่นแสดงให้เห็นว่าน้องแมวรู้สึกรำคาญเพราะมีบางอย่างกวนใจ แต่เมื่อไหร่ที่หางชี้ขึ้นด้านบนและขนที่หางพองฟูให้รู้เลยว่าเจ้าแมวกำลังเตรียมตัวต่อสู้กับอะไรบางอย่าง

3. นอนกลิ้งเพื่อให้เกาพุง

ต้องบอกก่อนว่าตำแหน่งพุงของเจ้าเหมียวคือตำแหน่งที่แมวหวงสุด ๆ ไม่ใช่จะสัมผัสได้ง่าย ๆ แต่หากวันใดที่เจ้าเหมียวยอมล้มตัวนอนหงายเพื่อให้เกาพุง แสดงว่าเจ้าเหมียวให้ความไว้ใจเป็นอย่างมาก ยิ่งหากน้องแมวเลียตัวเราแสดงว่าเขามอบความไว้ใจสูงสุด เพราะพฤติกรรมนี้แมวจะใช้ทำกับลูกเท่านั้น นอกจากนี้ แมวบางตัวยังชอบเอาตัวมาคลอเคลีย พฤติกรรมนี้แสดงถึงการเป็นมิตรเพราะน้องแมวต้องการทิ้งกลิ่นไว้ที่ร่างกายมนุษย์นั่นเอง

เพราะเจ้าเหมียวไม่สามารถสื่อสารมาเป็นคำพูดได้ ใครที่เป็นทาสแมวจึงจำเป็นต้องศึกษาพฤติกรรมเจ้าเหมียวเพื่อให้เข้าใจว่าพวกเขาต้องการอะไร แต่ถึงแม้เจ้าแมวน้อยจะน่ารักและมีพฤติกรรมทำให้มนุษย์ตกหลุมรักได้มากขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่ต้องระลึกเสมอคือควรเลี้ยงแมวเมื่อพร้อม เพราะเมื่อตัดสินใจดูแลเจ้าเหมียวแล้ว ความพร้อมก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะพวกเขาต้องการที่พักอาศัย อาหาร ยา การดูแลเอาใจใส่ รวมถึงความรักจากเจ้าของ ก่อนตัดสินใจรับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงจึงควรพิจารณาความพร้อมทุกด้านเพื่อให้เจ้าเหมียวอยู่กับเรานาน ๆ และไม่เป็นภาระภายหลัง

แมวเก้าแต้มสายพันธุ์แมวมงคลของไทย

แมวเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์มานานแสนนานแล้ว มีหลักฐานชัดเจนว่าพบเจอซากมัมมี่ของแมวในสุสานโบราณของฟาโรห์อียิปต์อีกด้วย แมวไทยก็เช่นกัน ได้มีการค้นพบสมุดข่อยโบราณที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา ที่ปรากฎมีภาพวาดของแมวเก้าแต้ม แมวสายพันธุ์ไทยโบราณ ซึ่งในสมุดข่อยระบุว่า แมวเก้าแต้มเป็นแมวที่มีลักษณะดี และสวยงามอย่างยิ่ง อีกทั้งแมวเก้าแต้มถือเป็นแมวที่ให้คุณ นำพาความสิริมงคลมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ ลักษณะของแมวเก้าแต้มจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามศึกษาไปพร้อม ๆ กันเลย

สายพันธุ์แมวไทยที่ให้คุณ แมวเก้าแต้ม 

แมวเก้าแต้ม เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวมงคล ซึ่งเป็นที่เชื่อถือกันมาแต่ครั้งโบราณกาลว่า สายพันธุ์แมวมงคลนั้น จะให้คุณอนันต์ นำพาความเจริญก้าวหน้า และความสำเร็จมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ โดยแมวสายพันธุ์มงคลเหล่านี้ ได้แก่สายพันธุ์ เก้าแต้ม วิเชียรมาศ การเวก วิลาศ โกนจา นิลจักร เป็นต้น แมวสายพันธุ์มงคลเหล่านี้เป็นแมวไทยโบราณ บางสายพันธุ์ก็สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่สำหรับแมวเก้าแต้มนั้น ยังคงเป็นสายพันธุ์ที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเชื่อกันว่าเป็นแมวที่นำโชคลาภมาให้กับผู้เลี้ยง

แมวเก้าแต้มนั้นเป็นแมวไทยที่มีลักษณะดี เป็นแมว 9 ชีวิต จึงให้สิริมงคลสูง ผู้ที่เลี้ยงดูหรือเจ้าของแมวเก้าแต้มจะพบกับความสุขความเจริญ และความก้าวหน้า ไม่ว่าทำการงานสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จ ดังบทเช่นในบทนิพนธ์ ที่กล่าวถึงแมวเก้าแต้มเอาไว้ว่า

สลับดวงคอโสตรัตต้น ขาหลัง

สองไหล่กำหนดทั้ง บาทหน้า

มีโลมดำบดบัง ปลายบาท สองแฮ

เก้าแห่งดำดุจม้า ผ่าพื้นขาวเสมอ

คนสมัยก่อนโดยเฉพาะในหมู่ขุนน้ำขุนนาง จะนิยมเลี้ยงแมวเก้าแต้มเอาไว้ เพราะเชื่อว่าแมวสายพันธุ์นี้จะส่งเสริมด้านการค้าขายทำให้กิจการรุ่งเรืองร่ำรวย ในราชสำนักเองก็นิยมเลี้ยงแมวเก้าแต้มไว้เช่นกัน เพราะถือว่าจะนำมาซึ่งลาภยศศักดินาต่างๆ ปัจจุบันแมวเก้าแต้มค่อนข้างจะหายาก ต้องสอบถามที่ฟาร์มซึ่งเพาะเลี้ยงแมวเก้าแต้มโดยเฉพาะจริง ๆ

ลักษณะของแมวเก้าแต้ม

แมวเก้าแต้ม จะเป็นแมวพันธุ์ไทยขนสีขาวสะอาด ตามลำตัวจะปรากฏหย่อมขนสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้มขึ้นแต้มรวมทั้งสิ้น 9 แห่ง ได้แก่ แต้มขนบริเวณคอ หัว โคนขาหลังและโคนขาหน้าทั้ง 4 ข้าง แผ่นหลัง โคนหาง และบริเวณไหล่ทั้งสอง โดยลักษณะขนแต้มสีดำหรือสีน้ำตาลนี้ อาจจะพบได้เป็นทรงกลม หรือเป็นปื้นออกเหลี่ยมก็ได้ ปลายหางของแมวเก้าแต้มจะสีขาว ซึ่งลักษณะเช่นนี้เอง จึงเป็นที่มาของคำว่า แมวเก้าแต้ม ส่วนลักษณะของขนนั้น แมวเก้าแต้มจะมีขนปกคลุมทั้งตัวเหมือนกับแมวชนิดอื่น แต่จะเป็นขนจะสั้น ๆ ตลอดทั้งลำตัว 

 หากใครสนใจที่จะมีสัตว์เลี้ยงเพื่อเสริมสร้างสิริมงคลและโชควาสนาวาสนา ก็ลองพิจารณาเลือกแมวเก้าแต้มเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก ไม่แน่ว่าโชคลาภอาจจะมาถึงคุณโดยไม่คาดฝันก็ได้

วิธีสอนสุนัขหยุดกระโจนใส่คน

สุนัขหลายตัวมีพฤติกรรมกระโจนใส่คนแล้วใช้อุ้งเท้าวางบนตัว หนังสือบางเล่มบอกว่าเป็นพฤติกรรมทักทายด้วยความดีใจ แต่บางเล่นก็ว่าเป็นการข่มแสดงความเหนือกว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด หลาย ๆ คนรู้สึกว่าการกระโดดทักทาย โดยเฉพาะเมื่อสุนัขตัวเปียกหรือสกปรกจะทิ้งรอยอุ้งเท้าเปื้อน ๆ ไว้บนเสื้อผ้า ยิ่งเป็นสุนัขตัวโตด้วยแล้วถูกกระแทกแรง ๆ ทำให้เด็กหรือคนสูงอายุหกล้มเป็นอันตรายมาก 

บ้านไหนมีปัญหาสุนัขชอบกระโจนใส่สมาชิกในครอบครัว แขกที่มาเยือน หรือแม้แต่คนแปลกหน้า กำลังมองหาวิธีแก้นิสัยกระโจน ควรทำอย่างไรดีมาอ่านคำตอบกัน

1.เริ่มฝึกเมื่อสุนัขเริ่มกระโจนใส่คน การผลักตัวสุนัขออกไปมักจะไม่สำเร็จ เพราะสุนัขมักจะคิดว่าเป็นเกมและเล่นมวยปล้ำทำให้กระโจนแรงและตะกุยตะกายหนักขึ้น ต้องสอนวิธีการทักทายอย่างสุภาพทันทีเพื่อไม่ให้กระโดดใส่ใครอีกในภายหลัง

2.วิธีฝึกพฤติกรรมการทักทายด้วยการนั่ง ทำให้อุ้งเท้าทั้งสี่ข้างอยู่บนพื้น หรือจะฝึกให้นอนราบก็ได้ เมื่อมีคนกลับมาที่บ้าน การสั่งให้นั่งหรือนอนเป็นประจำทำให้สุนัขเข้าใจและเลิกกระโจนใส่คนอีก การฝึกให้นั่งค่อนข้างง่าย โดยใช้สายจูงและขนมเป็นอุปกรณ์ตัวช่วย เริ่มด้วยการถือสายสูงสั้น ๆ สั่งให้ “นั่ง” ดึงสายจูงขึ้นพร้อมกับใช้มือกดบั้นท้ายของสุนัขให้นั่งลง ปล่อยให้นั่งอยู่สักพัก หากสุนัขขยับจะลุกให้ใช้คำสั่งเดิมเพื่อให้สุนัขลงไปนั่งตามเดิม จากนั้นค่อยให้ขนมเป็นรางวัล ฝึกบ่อยๆ ก็จะเข้าใจและนั่งตามคำสั่งได้

3.ฝึกการทักทายเมื่อมีคนเดินเข้าบ้าน อีกวิธีหนึ่งเป็นการเบนความสนใจสุนัข โดยถือสายจูงสุนัขไว้ ให้คนเปิดประตูบ้านเดินเข้ามา ก่อนที่คนจะเดินมาถึงตัวสุนัข ให้โยนขนมของโปรดหลายชิ้นลงบนพื้นทำให้สุนัขสนใจและกินขนมบนพื้นก่อน จากนั้นค่อยให้คนเดินเข้ามาใกล้ ๆ พอสุนัขกินเสร็จแล้ว ให้คนเดินออกประตูไป ทำซ้ำๆ หลายครั้ง หลังจากนั้นเปลี่ยนวิธีฝึก ให้สุนัขนั่งลงก่อน เมื่อคนเปิดประตูเดินเข้ามาให้เจ้าของสุนัขโยนขนมลงบนพื้นตลอดเวลา ทำซ้ำหลายครั้ง สุนัขจะเริ่มเข้าใจและยอมนั่งนิ่งบนพื้นเมื่อมีคนเดินเข้าบ้านให้เจ้าของวางขนมชิ้นแรก การฝึกวิธีนี้ถ้าสุนัขกินขนมยังไม่หมดแต่เริ่มกระโจนใส่คนแล้วถือว่าล้มเหลวต้องหยุดทันที แล้วค่อยเริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่แรก

4.ฝึกสุนัขนั่งห่างจากประตูก่อน เสียงกดกริ่งประตูหรือแตรรถหน้าบ้านอาจกระตุ้นให้สุนัขตื่นตัวและเตรียมพร้อมกระโดดใส่คนที่เดินเข้ามาในบ้าน การฝึกในช่วงแรกต้องให้สุนัขอยู่ห่างจากประตู โดยเจ้าของถือเชือกไว้หรือผูกไว้กับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านห่างออกไป 2-3 เมตรหรือมากกว่า ทำให้สุนัขใจเย็นลงได้ ให้สมาชิกให้ครอบครัวมาช่วยฝึกโดยเปิดประตูบ้านแล้วค่อยๆ เดินเข้าใกล้ ถ้าสุนัขยังนิ่งอยู่ค่อยๆ ลูบคลำตัวทักทาย แต่ถ้าสุนัขขยับลุกขึ้นให้คนช่วยฝึกรีบลุกหันหลังเดินออกไปทันที ทำซ้ำต่อไปจนกว่าสุนัขจะเข้าใจว่าวิธีการรับแขกต้องนั่งนิ่งๆ เท่านั้น

จำไว้ว่าช่วงแรกต้องขยันฝึกบ่อย ๆ ยิ่งฝึกมากก็จะยิ่งง่ายขึ้น อย่าลืมให้ของรางวัลเมื่อสุนัขทำตามอย่างถูกต้อง

ฝึกแมวให้เชื่อง และขับถ่ายเป็นที่

แมวชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เข้าใจยาก ทำให้คนเลี้ยงแมวส่วนมากไม่รู้วิธีในการฝึกให้เหมาะสม ซึ่งในความจริงนั้นการเลี้ยงแมวให้เชื่อง รู้จักเชื่อฟัง และทำตามกฎที่เจ้าของตั้งเอาไว้ได้ เพียงแค่รู้เทคนิคที่เหมาะสม ยิ่งเริ่มฝึกตั้งแต่ช่วงที่เป็นลูกแมว การฝึกแมวก็จะงานมากขึ้นอีกด้วย

ขั้นแรก เริ่มฝึกแมวให้คุ้นเคยกับเจ้าของก่อน ก่อนทำการฝึกใด ๆ เจ้าของเองก็ต้องเข้าใจพฤติกรรมพื้นฐานของแมวให้ดีเสียก่อน เพราะตามปกติแมวคือสัตว์ที่มีอุปนิสัยไร้เดียงสา และความมีเล่ห์เหลี่ยมเข้าด้วยกัน ดังนั้นเจ้าของจึงต้องใช้ความอดทน และรู้จักสังเกตอารมณ์ของน้องแมวไปด้วยกัน

  • ลองสัมผัสน้องแมว พร้อมสังเกตด้วยว่าแมวมีการร้องเสียงดัง ขู่เสียงฟ่อ ๆ หรือใบหูลู่พับลงไปแนบติดหัว หนวดเหยียดยาวตรงไปทางข้างหน้า แกว่งหางไปมา และเตรียมตะปบเข้าใส่พร้อมกงเล็บหรือไม่ หากแมวมีลักษณะอาการแบบนี้ แนะนำว่าให้หยุดเข้าใกล้ก่อน และเว้นระยะห่างกับแมวก่อน สำหรับลูกแมว การฝึกให้คุ้นเคยกับเจ้าของจะค่อนข้างง่าย เจ้าของอาจค่อย ๆ ห่มตัวแมวด้วยผ้าเช็ดตัวนุ่ม ๆ อย่างเบามือจนถึงคอ แล้วค่อยจับอุ้มขึ้นมา จับให้น้องแมวหันหน้าออกจากอก เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกข่วน หรือกัด จากนั้นให้ลูบ และพูดคุยกับแมวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อสร้างความไว้วางใจ แต่กรณีแมวโตอาจใช้วิธีอื่น ๆ อย่างใช้ขนมล่อ หรือเครื่องล่อแมวที่เรียกว่าแครกเกอร์ให้เข้ามาใกล้ได้
  • เมื่อแมวรู้สึกดีใจที่ได้พบกับเจ้าของนั้น อาการของแมวคือการวิ่งเข้ามาหา หูตั้งตรง ตาขยายกลมโต หนวดกระดิก รวมถึงการใช้หางพันแข้งพันขาเจ้าของ ซึ่งแสดงถึงความเชื่องของแมว และความพร้อมที่เขาจะรับฟังคำสั่งอื่น ๆ ต่อไปแล้ว

ตามธรรมชาติแมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาดอยู่แล้ว แต่หากไม่ฝึกแมวให้รู้จักขับถ่ายเป็นที่เป็นทางแล้ว แมวก็อาจจะถ่ายเรี่ยราดตามที่ต่าง ๆ ของบ้าน เช่นบนหมอน ผ้าห่ม หรือพรม ให้เจ้าของต้องเสียเวลาตามเก็บกวาด เพราะแมวจะจดจำกลิ่นและกลับไปขับถ่ายที่เดิมอยู่เสมอ ดังนั้นคุณผู้ชายสายติดดูโปรแกรมบอลถ่ายทอดสดบ่อยๆ ควรแบ่งเวลามาฝึกน้องแมวไว้ก่อนในช่วงแรก ไม่งั้นได้นั่งดูบอลไปสูดกลิ่นอุจจาระแมวไปในตัวเสียอารมณ์หมดพอดี

วิธีการฝึกแมวให้ขับถ่ายเป็นที่

  1. วางกระบะทรายเอาไว้ในบริเวณที่ค่อนข้างสงบ ไม่มีคนพลุกพล่าน เนื่องจากแมวค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัว และรู้สึกเครียดได้ง่าย
  2. ฝึกแมวให้รู้จักใช้กระบะทราย โดยอุ้มแมวไปวางลงบนกระบะทราย (ถ้าแมวหนีอย่าพยายามบังคับ) โดยเริ่มจากการปล่อยให้แมวเริ่มดมกลิ่นก่อน หากยังไม่ฉี่ก็อย่ารีบร้อน อาจฝึกโดยนำกระดาษทิชชูที่เช็ดฉี่ของแมวมาใส่ไว้ในกระบะทรายก่อน เพื่อให้มีกลิ่น และทำให้แมวรู้ว่าบริเวณนี้เป็นที่ปลดทุกข์ของเขา
  3. เจ้าของต้องเก็บอึและฉี่ทุกวัน เพราะแมวรักความสะอาดมาก โดยไม่ต้องกลัวว่าแมวจะไม่กลับมาอึหรือฉี่ในกระบะอีก เพราะในกระบะยังคงมีกลิ่นที่แมวสัมผัสได้อยู่
  4. อย่าลืมชม และลูบหัวของแมว เพื่อให้แมวรู้ว่าได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วย

อ่านใจสัตว์เลี้ยงด้วยท่าทางของ สุนัข แมว เจ้าของรู้ต้องหลงรัก

แววตาคือการแสดงออกของสุนัขแมวที่ทำให้เจ้าของหลายคนหลงรัก และเมื่อทำผิดก็ใจอ่อนให้อภัยทุกที แต่ความน่ารักไม่ได้มีเพียงเท่านี้สัตว์เลี้ยงทั้งสองสามารถแสดงท่าทางที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่มีต่อเจ้าของ แน่นอนหากคุณได้ทราบถึงความหมายจะต้องหลงรักพวกเขามากกว่าเดิม เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่าท่าทางเหล่านั้นมีความหมายอย่างไรบ้าง

เจ้าเหมียวกับท่าทางการแสดงความรักที่มีต่อเจ้าของ

แสดงความรักด้วยการคาบของมาฝาก เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่ทำเอาเจ้าของบางคนต้องร้องกรี๊ดเพราะบางครั้งคาบตัวอะไรมาก็ไม่รู้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแมวตัวเมีย เพราะมีความเป็นนักล่าสูง จึงมักแสดงความรักด้วยการคาบของมาให้

อ้อนเจ้าของด้วยการคลอเคลีย ซึ่งเป็นสิ่งพฤติกรรมที่แสดงความเป็นเจ้าของ ขณะคลอเคลียมันจะปล่อยกลิ่นให้ติดตัวเจ้าของด้วย

นอนทับเจ้าของและนอนหงาย เป็นพฤติกรรมที่มันกำลังบอกว่ารู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่กับคุณและถือเป็นการบอกรักอีกด้วย

ร้องเหมียว ๆ เบา ๆ มันกำลังสื่อว่ารักคุณมาก ๆ นั่นเอง

ชอบเลียที่ตัวเจ้าของ เป็นการแสดงความรักความห่วงใหญ่

นวดตัวเจ้าของ เป็นการแสดงความรักและคิดถึง หากจะพูดให้เห็นภาพก็เหมือนเจ้าเหมียวในตอนเล็ก ๆ ที่ดูดนมแม่ มักจะนวดเต้านมแม่ไปด้วยนั่นเอง

พฤติกรรมการแสดงความรักที่เรากล่าวถึงนั้น คงทำให้หลายคนเข้าใจเจ้าเหมียวมากขึ้นและจากที่เคยคิดว่าแมวเป็นสัตว์ที่เย็นชา เมินเฉย แท้จริงแล้วเขาก็เป็นสัตว์ขี้อ้อน ต้องการความรักจากเจ้าของเช่นกัน เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจก่อนนั่นเอง

เจ้าตูบกับท่าทางการแสดงความรักที่มีต่อเจ้าของ

มักปลุกเจ้าของในยามเช้า พร้อมกระโจนขึ้นบนเตียงและเลียหน้า หากสุนัขพูดได้คงกำลังบอกคุณว่า “อรุณสวัสดิ์ เจ้านาย คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอหน้ากันตั้งหนึ่งคืน”

มักไปรอหน้าบ้านทุกครั้ง ถือเป็นการแสดงความจงรักภักดีว่าพร้อมที่จะติดตามไปด้วยและมันรู้สึกกังวลที่ต้องห่างคุณ

กระดิกหางเมื่อเจอเจ้าของ สำหรับพฤติกรรมนี้พวกมันจะแสดงออกมาอย่างเกินหน้าเกินตา เหมือนกับว่าไม่ได้เจอกันนานหลายปี ทั้งที่เจอกันทุกวัน

เดินตามไปทุกที่ เป็นการแสดงออกที่บอกว่ารักคุณมาก ๆ

เลียใบหน้า เป็นอีกหนึ่งการแสดงความรัก ความเอาใจใส่ต่อเจ้าของ

นี่ถือเป็นเพียงพฤติกรรมบางส่วนอันน่ารักของ สุนัข แมว เท่านั้น ซึ่งขณะที่คุณกำลังอ่านถึงความหมายท่าทางเหล่านี้ เชื่อว่าหน้าของ สุนัข แมว ที่บ้านต้องลอยมาแน่นอนและหลังจากนี้หากสัตว์เลี้ยงที่บ้านแสดงออกต่อคุณก็อย่าพึ่งได้รำคาญ เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่เขาจะสื่อถึงคุณ เพื่อตอบแทนความรักที่คุณมีต่อเขา

อยากเลี้ยงสุนัขและแมว ต้องทำอย่างไร ให้อยู่ด้วยกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน

หลายบ้านที่อยากเลี้ยงทั้ง สุนัข แมว ด้วยกัน แต่ก็เกิดความกังวลว่าทั้งสองจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะภาพที่เราเห็นบ่อย ๆ คือการต่อสู้ของ หมา แมว เจอหน้ากันแทบไม่ได้เป็นต้องแยกเคี้ยว กางเล็บ เตรียมฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ในบางครั้งรุนแรงถึงขั้นน้องแมวเสียชีวิตเลยล่ะ ทำให้เจ้าของหลายคนเหนื่อยใจไม่น้อย วันนี้เราจึงนำทริกเด็ด ๆ ในการเลี้ยงให้เขาอยู่ด้วยกันอย่างสงบและเป็นเพื่อน พี่น้องกันคล้ายกับว่าคลานออกมาจากท้องเดียวกัน โดยเราจะแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

กรณีแรก คือ นำมาเลี้ยงด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก

ถือเป็นวิธีที่ได้ผลมากทีเดียว เพราะ หมา แมว เมื่อพวกเขายังเล็กจะไม่สามารถแยกออกได้ว่าต่างสปีชีส์ แต่กลับคิดว่าเป็นพี่น้องหรือเพื่อนกัน ควรเลี้ยงในอายุเท่ากันตั้งแต่เกิดหรือ 2-3 เดือนจะดีมาก แบบนี้เจ้าของหายห่วงได้เลย เพราะพวกเขาจะไม่มีทางกัดหรือสู้รบกันแน่นอน เว้นแต่จะเล่นกันแรงมากเกินไปจนทำให้เกิดอาการหงุดหงิด เจ้าของต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดและให้ความรักทั้งสองอย่างเท่าเทียมกัน

กรณีสอง คือ นำมาเลี้ยงตอนที่โตแล้ว

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเลี้ยงหมาหรือแมวก่อนกันก็ตาม มักเจอปัญหาเมื่อนำสัตว์สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกเพิ่ม คือ การฟาดฟันกันไม่เว้นแต่ละวัน จนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องได้รับบาดเจ็บ ส่วนใหญ่น้องแมวจะทนไม่ได้ต้องหนีออกจากบ้าน เป็นแมวหลงทาง ซึ่งน่าสงสารมากทีเดียวหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นและเจ้าของเองก็เสียใจไม่น้อย ฉะนั้นหากต้องการเลี้ยงจริง ๆ เราขอแนะนำให้ทำตามนี้

แบ่งโซนให้ทั้งสองแยกจากกันหรือนำน้องแมวมาเลี้ยงในบ้าน จะทำให้สุนัขไม่กล้ามารังแกและทำให้น้องแมวได้อยู่อย่างสงบ

หากต้องการให้ทั้งสองอยู่ร่วมกันลองเอากรงมาวางไว้ใกล้ ๆ กันเพื่อสร้างความคุ้นเคย พร้อมแสดงความรักอย่างเท่าเทียม

เรื่องกลิ่นกับการเลี้ยงสัตว์ถือว่าเป็นสิ่งที่ใช้ฝึกพวกเขาได้หลากหลายทักษะ เจ้าของลองสร้างความคุ้นเคยให้แก่สุนัข โดยการนำกลิ่นฉี่ของแมวที่ซับด้วยทิชชู่ไปวางในบริเวณของบ้าน เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย ทำแบบนี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน สุนัขจะรู้ว่านี่คือหนึ่งในสมาชิกของบ้าน

อีกหนึ่งวิธีที่เป็นการสร้างความคุ้นเคยคือ เอาที่นอนของน้องหมาและน้องแมวให้นอนสลับกัน ทำแบบนี้ทุกวันเป็นเวลา 14 วัน แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งสองก็จะเริ่มคุ้นเคยกัน

วิธีสุดท้ายง่ายมาก ๆ คือการที่เจ้าของสัมผัสน้องหมาให้กลิ่นติดมือแล้วไปสัมผัสแมว ทำสลับกันแบบนี้จะทำให้ทั้งสองเริ่มคุ้นกลิ่นของกันและกัน

จากทริกทั้งหมดที่เรานำเสนอ ทำให้เจ้าของหลายคนสบายใจขึ้นมาบ้างแล้วว่า หากต้องนำ หมา แมว สัตว์ตัวใดตัวหนึ่งมาเลี้ยงด้วยกัน มีทริกง่าย ๆ ที่ช่วยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างสงบและรักกันดั่งพี่น้อง

ชี้เป้า! ไดร์เป่าขนป้องกันโรคเชื้อราในสุนัขและแมว

Chaolun รุ่น M105

Shernbao รุ่น DHD – 3000F

Minimal Pet รุ่น MP-302

Redminut รุ่น Smart Pet

การทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของ เนื่องจากสุนัขและแมวที่มีออกไปเล่นนอกบ้านสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่เจ้าของได้ การอาบน้ำสุนัขและแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่การอาบน้ำไม่ถูกวิธีสามารถก่อให้เกิดโรคเชื้อราในสุนัขและแมวได้

โรคเชื้อราในสุนัขและแมวเกิดมักมีสาเหตุมาจากการปล่อยให้ขนเปียกชื้นเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดเชื้อราบนผิวและทำให้สุนัข – แมวมีอาการระคายเคืองผิวก่อให้เกิดอาการคัน ขนหลุดร่วงและนำไปสู่ผิวหนังอักเสบจากแผล รวมถึงแพร่กระจายเชื้อรามายังเจ้าของได้

วิธีการรักษาและป้องกันโรคเชื้อราในสุนัขและแมว

พาสุนัขและแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อนำไปตรวจให้ละเอียดว่าจำเป็นต้องรับประทานยารักษาเชื้อราร่วมด้วยหรือไม่

ตัดขนให้สั้น เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายและช่วยลดความชื้นในเส้นขนและทำให้ขนที่เกิดใหม่มีสุขภาพดีขึ้น

เลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของตัวยา เพื่อลดอาการระคายเคืองและกำจัดเชื้อราบริเวณผิวหนัง พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังที่เกิดการอักเสบและบำรุงเส้นขน

เป่าขนทุกครั้งที่อาบน้ำเสร็จ เพื่อไม่ให้เกิดความชื้นสะสมนำไปสู่การเกิดเชื้อราผิวหนัง

5 ไดร์เป่าขนป้องกันโรคเชื้อราในสุนัขและแมว

Chaolun รุ่น M105 คุณสมบัติตัวเครื่องสามารถเป่าขนให้แห้งได้อย่างรวดเร็วภายใน 15 – 20 นาที มีให้เลือกทั้งลมร้อนและลมเย็น รวมถึงสามารถเป่าไล่น้ำได้ ความเร็วลมสูงสุด 65 เมตร/วินาที ความดังของเสียอยู่ที่ประมาณ 60 – 70 เดซิเบล ใช้งานง่าย มีให้เลือก 4 เฉดสี คือ ชมพู ดำ ฟ้าและขาว ราคาประมาณ 2,683 บาท

Shernbao รุ่น DHD – 3000F ไดร์เป่าขนสุนัขและแมวแบบ 2 มอเตอร์ ความแรง 3000 W สามารถทำความเร็วลมได้ 320 CFM เสียงไม่ดังมาก วัดได้ที่ 85 เดซิเบล สามารถปรับระดับความแรงลมและเปลี่ยนเป็นลมอุ่น – ลมร้อนได้ตามความต้องการ มีให้เลือก 3 เฉดสี คือ สีแดง สีส้มและสีม่วง ราคาประมาณ 4,450 – 4,750 บาท

Minimal Pet รุ่น MP-302 ไดร์เป่าขนที่มีคุณสมบัติสามารถใช้งานได้ทั้งแบบเป่าไล่น้ำและแบบเป่าแห้งมาพร้อมหัวแบบแปรงช่วยลดปัญหาเส้นขนพันกัน รวมถึงช่วยให้เป่าแห้งได้เร็วขึ้น สามารถปรับแรงลมได้ 2 ระดับ ราคาประมาณ 1,198 บาท

Redminut รุ่น Smart Pet Blowe อุปกรณ์ช่วยให้การเป่าขนสุนัขและแมวเป็นเรื่องง่าย มีระบบเซนเซอร์ที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิช่วยป้องกันการ Overheat รวมถึงมีระบบฟิลเตอร์ช่วยป้องกันฝุ่นละอองกระจายเวลาเป่าขนสัตว์เลี้ยง ราคาประมาณ 6,900 บาท

ดูแลสุนัขและแมวให้มีสุขภาพร่างกายที่ดี ร่าเริงและสะอาดถูกสุขลักษณะ ทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าอาบน้ำและเป่าขนในราคาแพงอีกต่อไป

ประกันสุนัข-แมวธุรกิจมาแรงคนไม่อยากมีลูก และเหตุผลที่ต้องทำประกันสัตว์เลี้ยง

สำหรับคนยุคปัจจุบันมีแนวโน้มแต่งงานลดลง และนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นลูกหรือเพื่อนมากขึ้น เพื่อคลายเหงา ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงโตอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นคือประกันเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ที่มาช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนความเสี่ยงซึ่งจะเกิดกับสัตว์เลี้ยงของคุณได้ เรามาดูเหตุผลกันดีกว่าว่าทำไมถึงต้องทำประกันให้สัตว์เลี้ยงด้วย

ความเสี่ยงสูง

ต้องเข้าใจก่อนว่าการหาหมอรักษาโรคเกี่ยวกับสุนัขและแมวไม่ได้หาง่ายเหมือนกับรักษาคน เพราะบางชุมชนมีสถานพยาบาลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแค่ 1 แห่ง และโรงพยาบาลของรัฐก็ไม่ได้มีคนรักษาสัตว์เลี้ยงของเราแบบเฉพาะทางด้วย ทำให้เมื่อสุนัขและแมวที่เรารักเจ็บไข้ได้ป่วยต้องหาคลินิกรักษาสัตว์เท่านั้น และค่ารักษาไม่ใช่น้อยเมื่อเทียบกับคนที่มีสิทธิประกันสังคม สิทธิบัตรทอง อีกทั้งโรคเกี่ยวกับสัตว์

เกิดขึ้นง่าย เมื่อเราให้อาหารอันไม่ถูกลักษณะของร่างกายสุนัขและแมว โดยเฉพาะบางคนเข้าใจว่าสุนัขต้องกินกระดูก ที่จริงแล้วสุนัขเลือกรับประทานกระดูกดิบเท่านั้น ถ้าเกิดทานไก่ทอดซึ่งมีกระดูกส่วนแข็งอยู่ เมื่อทานเข้าไปเศษกระดูกจะไปทิ่มแทงกระเพาะอาหาร ที่เห็นว่าสุนัขชอบแทะกระดูกเนื่องจากช่วยฝึกความแข็งแรงของกรามและฟัน ส่วนแมวก็ไม่ควรให้น้ำนมเป็นอาหารแบบที่ในการ์ตูนทำกัน เพราะร่างกายของแมวไม่สามารถย่อยสารอาหารในนมได้

คุ้มครองชีวิตของบุคคลภายนอก

สุนัขและแมววิวัฒนาการมาหลายพันปีก่อนที่จะมาอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้แบบปัจจุบัน ในอดีตสุนัขเป็นเพื่อนรู้ใจของมนุษย์มานานมีความสัมพันธ์แบบต้องพึ่งพากัน กล่าวคือ สุนัขจะเป็นผู้ช่วยของมนุษย์สำหรับการหาอาหารในป่า และแมวเป็นที่นิยมของมนุษย์สำหรับการล่าหนูเพื่อป้องกันความเสียที่จะเกิดขึ้นกับอาหารแห้งทั้งหลาย ดังนั้นด้วยสัญชาตญาณแบบเดิมที่มีความดุร้ายอยู่ในตัว เจ้าของสัตว์เลี้ยงจึงควรทำประกันสัตว์เลี้ยงเพื่อคุ้มครองความเสียหายแก่ชีวิต และร่างกายของบุคคลภายนอกที่เข้ามาในบริเวณเคหสถาน เราพบเห็นได้บ่อยว่าเจ้าของบางคนเลี้ยงสัตว์ไม่เป็น เช่น สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่ต้องการพื้นที่สำหรับการเลี้ยงบริเวณกว้าง แต่เจ้าของเลี้ยงในคอนโดเป็นพื้นที่คับแคบ สุนัขจะเกิดความเครียด และทำร้ายร่างกายของบุคคลในบริเวณใกล้เคียงได้

ช่วยติดตามสัตว์เลี้ยงหาย

ประกันสัตว์เลี้ยงบางบริษัทช่วยออกค่าใช้จ่ายในส่วนของการโฆษณาและโปสเตอร์ เมื่อน้องหมาน้องแมวของเราหนีออกจากบ้าน เนื่องจากสภาพแวดล้อมมีเสียงดังทำให้สัตว์เลี้ยงตกใจ เช่น เสียงเครื่องจักรกำลังก่อสร้าง เสียงฟ้าผ่า และเสียงประทัดในช่วงตรุษจีน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้หากเจ้าของแสดงอาการกลัวและไม่ได้ฝึกให้รับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยวิธีที่เจ้าของฝึกให้สัตว์เลี้ยงไม่กลัว คือ อย่าไปกอดหรือปลอบไม่ให้กลัว แต่ควรทำเหมือนเป็นเรื่องปกติชิวๆ เมื่อฝึกด้วยวิธีนี้ตั้งแต่เด็ก จะช่วยลดอาการกลัวได้

การทำประกันสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้สำหรับครอบครัวที่รักสุนัข-แมวเหมือนลูก ดังนั้นเจ้าของจึงควรมอบสวัสดิการให้แก่สัตว์กลุ่มนี้ ด้วยการให้สวัสดิการเหมือนกับมนุษย์

เลี้ยงสุนัขและแมว ต้องรู้กฎหมาย หากสัตว์เลี้ยงทำผิด

ปัญหาการเลี้ยง สุนัข แมว ในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้านและเป็นข่าวให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง นั่นคือ ส่งเสียงดัง, ขับถ่ายของเสียไม่เป็นที่และส่งกลิ่นเหม็น จากปัญหาเล็ก ๆ อาจลุกลามบานปลายหากไม่ได้รับการแก้ไขที่ดี ซึ่งนอกจากจะมีพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์เลี้ยงออกมาแล้ว แต่อย่าลืมว่ายังมีกฎหมายอื่น ๆ ที่สามารถเอาผิดเจ้าของหรือผู้เลี้ยงได้หากสุนัขและแมวกระทำความผิด ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 433 ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ ท่านว่าเจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้รับเลี้ยงรับรักษาไว้แทนเจ้าของจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่สัตว์นั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงการรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์ หรือตามพฤติการณ์อย่างอื่น หรือพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นย่อมจะต้องเกิดมีขึ้นทั้งที่ได้ใช้ความระมัดระวังถึงเพียงนั้น

อนึ่ง บุคคลผู้ต้องรับผิดชอบดังกล่าวมาในวรรคต้นนั้น จะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลผู้ที่เร้าหรือยั่วสัตว์นั้นโดยละเมิด หรือเอาแก่เจ้าของสัตว์อื่นอันมาเร้าหรือยั่วสัตว์นั้น ๆ ก็ได้

ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 377 ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558]

อยากเลี้ยง สุนัข และ แมวต้องทำอย่างไร

สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ศึกษา หาข้อมูลเกี่ยวกับ สุนัข แมว ที่จะเลี้ยงเสียก่อนว่าสายพันธุ์ที่จะเลี้ยงนั้นต้องการพื้นที่ ที่ให้เค้าวิ่งเล่นหรือไม่ เห่าเก่งแค่ไหนและที่สำคัญคุณมีเวลามากพอที่จะฝึกให้ สุนัข แมว ปลดทุกข์ทั้งหนักและเบาในสถานที่หรือภาชนะที่จัดเตรียมได้หรือไม่ จากนั้นคุณเองจะจัดการกับสิ่งปฏิกูลของสุนัขแล้วแมวอย่างไร เพราะหลายต่อหลายข่าวที่เป็นคดี ส่วนใหญ่จะมาจากการจัดการสิ่งปฏิกูลของสัตว์เลี้ยงไม่ได้ ทำให้เกิดการทะเลาะและเข้าใจผิดกับเพื่อนบ้านตลอดเวลา ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงนอกจากจะดูแลสัตว์และฝึกฝนให้ดี ต้องเอาใจใส่เพื่อนบ้านด้วย โดยเฉพาะการแจ้งเตือนจากเพื่อนบ้าน เพราะไม่อย่างนั้น คนที่จะมีปัญหาจะเป็นคุณเอง นอกจากนี้การพาสุนัขแล้วแมวออกไปเดินเล่นทุกครั้ง ควรมีสายลากจูง เพราะไม่อย่างนั้นหากเกิดเหตุร้ายจะไม่มีใครสามารถช่วยคุณได้

โรคที่พบบ่อยในสุนัขต้องระวัง 2565

การเลี้ยงสุนัขให้สุขภาพดีได้นั้น เจ้าของต้องใส่ใจดูแลและหมั่นสังเกตความผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้สุนัขป่วยจนเกินเยียวยา หรือหากเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงบางชนิดก็อาจติดต่อไปสู่สัตว์เลี้ยงอื่นในบ้านและเจ้าของได้ด้วย เรามาดูกันว่าโรคที่พบบ่อยในสุนัขที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง

  1. โรคอ้วน – โรคอ้วนพบมากในสุนัขที่เจ้าของให้กินอาหารแบบเดียวกับคน ซึ่งจะมีปริมาณแป้งและไขมันที่สูงกว่าการกินอาหารเม็ดหรืออาหารกระป๋องของสุนัขทั่วไป ทั้งนี้ต้องควบคุมจำนวนมื้อให้เหมาะสมกับช่วงอายุของสุนัขด้วย มิเช่นนั้นจะกลายเป็นโรคอ้วนสังเกตจากพุงที่ใหญ่ และการเดินที่ช้าอุ้ยอ้าย และนำไปสู่การเป็นโรคความดันและไขมันสูงในสุนัขด้วย
  2. โรคพยาธิหนอนหัวใจ – พยาธิหนอนหัวใจนั้นมีพาหะนำโรคที่สำคัญคือ ยุง ดังนั้นต้องวางกรงเลี้ยงสุนัขในจุดที่ไม่เป็นมุมมืดหรือใกล้กับบริเวณน้ำขัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง หากสุนัขติดเชื้อแล้วจะมีอาการซึมไม่ร่าเริง เบื่ออาหาร เหนื่อยหอบง่าย และมีอาการท้องบวม หากนานเข้าพยาธิตัวแก่อาจไปอุดตันตามหลอดเลือดและทำให้เสียชีวิตได้
  3. ฟันผุ – แม้ว่าผู้เป็นเจ้าของส่วนใหญ่จะไม่ได้แปรงฟันให้สุนัข แต่วิธีการง่าย ๆ ในการกำจัดหินปูนและป้องกันฟันผุ ก็คือหมั่นให้สุนัขเคี้ยวขนมหรือของเล่นสำหรับสุนัขที่มีความแข็งพอเหมาะ มีแบรนด์สินค้าสุนัขชั้นนำมากมายที่ออกแบบดีไซน์ออกมาเพื่อตอบโจทย์นี้ มีการพัฒนาสี กลิ่น รส ที่ถูกใจสุนัขส่วนใหญ่ เช่น รสตับ รสเนื้อวัว รสไก่ ฯลฯ นอกจากลดปัญหาฟันผุได้แล้ว ยังช่วยลดปัญหากลิ่นปากอีกด้วย
  4. โรคลำไส้อักเสบ – ปัญหาลำไส้อักเสบเกิดจากเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนในอุจจาระ เมื่อสุนัขไปกินอาหารหรือน้ำจากแหล่งสกปรกที่มีการปนเปื้อนอุจจาระ เชื้อโรคนี้จะเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ตามช่วงอายุที่สัตวแพทย์แนะนำจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด หากติดเชื้อแล้วจะมีอาการซึมลง อาเจียน ถ่ายเป็นมูกเลือดและมีกลิ่นคาวเหม็นมาก หากพบอาการผิดปกติเหล่านี้ต้องรีบพาไปตรวจรักษาโดยทันที
  5. โรคพิษสุนัขบ้า – พิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัส Rabies ที่สามารถติดต่อได้ระหว่างสุนัขและแมว เจ้าของจึงต้องนำสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันไว้เป็นประจำทุกปี เพราะเป็นโรคที่ไม่มียารักษา หากสุนัขติดแล้วก็จะส่งต่อทางน้ำลายไปสู่คนหรือสัตว์ที่โดนกัดได้ด้วย

โรคที่กล่าวมาทั้ง 5 โรคนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด คนที่เลี้ยงสุนัขจึงต้องศึกษาหาข้อมูลทั้งเรื่องของอาหาร ยา วัคซีน ตั้งแต่เริ่มคิดเลี้ยงสุนัข รวมถึงดูแลสุขลักษณะ พื้นที่อยู่อาศัยของสุนัขให้เหมาะสมด้วย จะลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น